ผู้ว่าฯ ชุมพร สั่งสาธารณสุขจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนให้ระวัง ด้วงก้นกระดก แพร่ระบาดหนักใน 5 อำเภอ หลังเด็กชาย 11 ขวบ ถูกพิษเข้าที่อวัยวะเพศ ทำให้ฉี่ไม่ออกและมีอาการบวมพุพอง
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 มีรายงานว่า นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมอาการของเด็กชายชินจัง (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ ที่ถูกพิษจากด้วงก้นกระดกกัดที่บริเวณอัณฑะ จนมีอาการหนักถึงขั้นปัสสาวะไม่ออก และเกิดแผลพุพอง บวม อีกด้วย
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังการระบาดของด้วงก้นกระดกในจังหวัดชุมพรอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วงก้นกระดกจะมีจำนวนมาก โดยเฉพาะใน 5 อำเภอ ได้แก่ เมืองชุมพร, ปะทิว, สวี, ทุ่งตะโก และหลังสวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอำเภอที่เกิดน้ำท่วม คาดว่าน้ำน่าจะไปท่วมรังของแมลงที่อยู่ใต้ดิน จึงต้องออกมาอาศัยบนต้นไม้และตามบ้านเรือน
ทั้งนี้ นางเดือนเพ็ญ เคี่ยนบุ้น สาธารณสุขอำเภอสวี เผยว่า ด้วงก้นกระดกตัวเล็กประมาณ 7 มิลลิเมตร สีดำสลับน้ำตาล มีพิษเป็นกรดชนิดหนึ่ง เมื่อโดนแล้วจะมีอาการปวดแสบ และทำให้เกิดตุ่มพุพอง หากคนที่แพ้จะมีอาการมาก แต่ถ้าไม่แพ้จะมีอาการเล็กน้อย
สำหรับวิธีแก้เบื้องต้นเมื่อโดนพิษด้วงก้นกระดก ให้นำน้ำสะอาดล้าง หรือล้างด้วยสบู่ ล้างบริเวณผิวหนังที่ได้รับพิษ ห้ามขยี้หรือเกา เพราะจะทำให้พิษขยายวงกว้าง พิษจะเริ่มออกอาการหลังจากโดนแล้ว ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้าผู้ที่ได้รับพิษมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน อาการจะหนักขึ้น โดยแมลงจะอาศัยตามกองขยะ กองหญ้า ชอบเล่นแสงสีขาว เช่น ไฟนีออน สามารถใช้สเปรย์ป้องกันแมลงฉีดพ่นได้ แต่อย่าโดนตัวแมลง
ภาพและข้อมูลจาก
,
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น