น่ารู้คู่บ้าน เลือกเครื่องตัดหญ้าให้เหมาะกับการใช้งาน รับหน้าฝน
ย่างเข้าเดือนพฤษภาคม เม็ดฝนก็เริ่มโปรยปรายช่วยให้ต้นไม้ดูชุ่มชื่นมากขึ้นเป็นข้อดีสำหรับคนรักการปลูกต้นไม้ดอกไม้ แต่สิ่งที่ตามมานอกเหนือจากความชุ่มฉ่ำก็คือความเขียวขจีของต้นหญ้าและวัชพืชต่างๆ ที่ดูจะโตเร็วยิ่งกว่าซะอีกด้วย ทำให้มีความจำเป็นต้องตัดหญ้ากันบ่อยครั้ง สำหรับบางบ้านที่มีแผนจะหาเครื่องมือตัดหญ้ามาไว้ใช้งาน วันนี้มีเครื่องตัดหญ้าแบบต่างๆ มาให้เลือกค่ะ
ก่อนอื่นต้องพิจารณาถึงลักษณะของสวนหรือพื้นที่ที่เราจะนำมาใช้งาน ว่าเป็นสวนเล็กๆ บนระเบียง สวนหย่อมขนาดย่อมๆ ในทาวน์โฮม หรือสวนกว้างหน้าบ้านเดี่ยวเป็นสนามฟุตบอลขนาดเล็กสำหรับเด็กๆ เรื่องขนาดของสวนจะบอกเราได้เลยว่าอุปกรณ์ในการดูแลสวนหรือเครื่องตัดหญ้าที่เราจะเลือกใช้ควรเป็นแบบใด เพื่อจะได้เลือกถูกว่าควรเป็นเครื่องตัดหญ้าแบบเล็ก ใหญ่ ใช้น้ำมัน หรือไฟฟ้า เพื่อจะได้ช่วยให้เราประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน รวมถึงลักษณะพื้นที่ในสวน เป็นเนิน เป็นหลุม ลักษณะของหญ้าที่ปลูก หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลย์ หญ้าญี่ปุ่น เพื่อจะได้เลือกชนิดของใบมีดให้เหมาะสม
เครื่องตัดหญ้าแบบใช้แรงคนเข็น
เป็นแบบที่ประหยัดที่สุดเพราะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง แต่เป็นเครื่องที่ใช้คนเข็นแล้วใบมีดแบบโรตารี่ก็ทำการตัดหญ้าไปตามแรงเข็น หรือบางคนก็นำมาต่อกับจักรยานปั่นตัดหญ้าไปรอบๆ สนาม ใช้งานได้ดีกับพื้นที่เล็กๆ ที่ราบเรียบ เป็นหญ้าที่ปลูกเพื่อความสวยงาม แต่ใบมีดของเครื่องชนิดนี้จะสึกง่าย ลับคมไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนอะไหล่ก็ราคาสูง อายุการใช้งานไม่ยาวนานนัก
เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีต้นหญ้าขึ้นสูง หรือในจุดที่เข้าถึงยาก ส่วนใหญ่จะถูกใช้สำหรับในสวน ไร่ นา ที่มีหญ้าขึ้นรกสูง เช่นพวกหญ้าคา วัชพืชต่างๆ ใช้ได้ในพื้นที่ๆ ไม่เรียบ ด้วยกำลังของเครื่องแบบ 2 จังหวะและ 4 จังหวะใช้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมัน ใช้ได้กับการตัดหญ้าแทบทุกประเภท แต่ตัวเครื่องจะมีน้ำหนักมาก และเสียงดัง ใช้ยากกว่าแบบรถตัดหญ้า การใช้งานต้องมีความเชี่ยวชาญมากทีเดียว หากใช้ไม่เป็นอาจทำให้เกิดอันตราย จึงต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่างแว่นนิรภัยไว้สวมใส่ระหว่างทำงานด้วย
เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นไฟฟ้า
เป็นแบบที่นิยมใช้กันทั่วไป เพราะสะดวกทั้งเรื่องการใช้งาน เรื่องของพลังงานที่เป็นแบบไฟฟ้า ไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา แค่เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งาน เสียงไม่ดังมาก ผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้สะดวก เวลาใช้งานเพื่อให้ตัดหญ้าได้เรียบและเบาแรงควรแบ่งการตัดออกเป็นสองระดับ จะช่วยให้ตัวเครื่องไม่ดับหรือน็อคเมื่อเจอหญ้าสูงและหนา
ข้อดีของเครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้า
คือ ใช้งานสะดวก มีเสียงเบา ไม่เกิน 96 เดซิเบล ไม่มีมลพิษทางอากาศ ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย เพียงล้างหญ้าที่ติดออกให้หมด ชโลมน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ เช่น ใบมีดเพื่อยืดอายุการใช้งาน ก่อนนำเข้าเก็บ
ข้อเสียของเครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้า
คือ ระยะความยาวในการตัดหญ้านั้นจำกัดตามความยาวของสายไฟ ซึ่งมักมีความยาวอยู่ที่ 10-20 เมตร ดังนั้นก็จะเหมาะกับสนามที่มีขนาดกว้างไม่เกินนี้ ถ้าเกินก็ต้องใช้ปลั๊กพ่วงซึ่งก็จะรุงรังไปอีก ต้องพักเครื่องทุก 15-30 นาที เพื่อไม่ให้มอเตอร์ไหม้ และมอเตอร์สำหรับเครื่องแบบไฟฟ้าจะไม่สามารถตัดหญ้าในสนามที่มีความชื้นสูงหรือเปียกได้ เพราะมอเตอร์เป็นแบบแปลงถ่าน ถ้าเจอความชื้นเครื่องก็จะไม่ทำงาน มอเตอร์ก็อาจจะเสียหายได้
เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นใช้น้ำมัน
ต้องบอกเลยว่าเป็นแบบที่นิยมกันมาก เพราะใช้งานได้สะดวกด้วยพลังการตัดหญ้าที่แรงกว่าแบบไฟฟ้า สามารถตัดหญ้าที่มีความหนามากได้ รวมถึงใช้งานได้ในสนามที่ชื้นและเปียก ตัดหญ้าในพื้นที่กว้างๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องพักเครื่อง จนกว่าน้ำมันจะหมดถัง
ข้อดีของเครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน
คือ เครื่องยนต์มีกำลังแรง ตัดหญ้าในสนามกว้างๆ ได้โดยไม่ต้องหยุดพัก ไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟ มีอะไหล่ครบสำหรับการซ่อมแซมในส่วนต่างๆ อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสียของเครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน
คือ ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับเครื่องแบบไฟฟ้า เสียงดัง มีน้ำหนักมากและตัวเครื่องขนาดใหญ่ ไม่สามารถเก็บงานในมุมที่แคบหรือพื้นท่ีเป็นเนินได้ดีเท่ากับแบบไฟฟ้า เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หัวเทียน ไส้กรองอากาศ และถอดลับใบมีด 5-6 เดือนครั้ง และที่สำคัญต้องเตรียมน้ำมันให้พร้อมก่อนลงมือตัดหญ้า
เครื่องตัดหญ้าแบบเอ็น
เป็นเครื่องแบบมือถือที่ใช้พลังงานไฟฟ้า มีเส้นเอ็นเหวี่ยงรอบแกนของมอเตอร์เป็นตัวตัดหญ้า กำลังการทำงานไม่แรงเท่ารถตัดหญ้าแบบไฟฟ้าหรือแบบใช้น้ำมัน ไม่เหมาะกับการตัดหญ้าในสนามที่กว้างมาก ใช้ได้กับการตัดหญ้าที่ปลูกเพื่อความสวยงามมากกว่าพวกวัชพืช สำหรับสนามขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่มากนัก สามารถใช้เครื่องแบบนี้ตัดหญ้าได้สบายในการเล็มหญ้าบริเวณขอบปูน ขอบรั้ว ที่รถตัดหญ้าเข้าไม่ถึง
อย่าลืมเรื่องถังเก็บหญ้า เพราะหากเลือกใช้เครื่องแบบไม่มีถังเก็บก็จะต้องเสียวเวลามากวาดเก็บหญ้าอีกรอบหนึ่ง
สำหรับสนามหญ้าที่มีความลาดเอียง ควรเลือกใช้ถังเก็บหญ้าที่เป็นไนล่อน มีน้ำหนักเบา มองเห็นปริมาณของเศษหญ้าในถังเก็บได้ง่ายและระบายอากาศได้ดี ส่วนพื้นที่ราบสามารถใช้ถังเก็บหญ้าแบบพลาสติก Polypropylene (PP) ซึ่งมีความคงทนแข็งแรง ทำความสะอาดง่าย ยืดหยุ่น ทนทาน และน้ำหนักเบา ถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวก
เรื่องต้องรู้ดูแลเครื่องตัดหญ้า
เครื่องตัดหญ้าแบบใช้ไฟฟ้า
หลังการใช้งาน ควรทาน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ อย่างบริเวณใบมีดเพื่อยืดอายุการใช้งาน เช็ดปัดเศษหญ้าด้วยผ้าแห้งสะอาด อย่าปล่อยให้หญ้าแห้งสะสมหนาจนเสียความคมของใบมีด และไม่ลืมม้วนเก็บสายไฟเข้าที่ ระวังอย่าให้สายหักงอเพราะลวดทองแดงข้างในอาจขาดได้
เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน
หมั่นตรวจเช็คและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทำความสะอาดกรองอากาศด้วยการเป่าฝุ่น หรือล้างด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถตัดหญ้า ไม่ควรใช้น้ำเปล่าล้างเพราะหากไม่แห้งน้ำจะกระเด็นเข้าไปในเครื่องทำให้เครื่องเสียหาย และควรทาน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ และไม่ลืมเช็ดเศษหญ้า ไม่ให้สะสมจนหนาเกินไป
ไม่ลืมถามเรื่องการดูแลหลังการขาย...ควรเลือกแบรนด์ที่มี after sale service มีการรับประกันตั้ง 6 เดือน - 8 ปี แล้วแต่ยี่ห้อ ในส่วนนี้ต้องไม่ลืมที่จะถามพนักงานเป็นคำถามสุดท้ายด้วย
ที่มา homepro
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น