เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ สื่อดังของอังกฤษ ได้นำเสนอรายงานเกี่ยวกับเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทยอย่าง พัทยา ที่ฉาวกระฉ่อนไกลไปถึงระดับโลก โดยได้ระบุว่า ในแต่ละปีมีผู้ชายจำนวนมากกว่าล้านคนจากทั่วโลก เดินทางไปเที่ยวที่เมืองพัทยา อันเป็นที่รู้จักกันดีว่า เปรียบเสมือนเมืองหลวงแห่งการค้ากามของโลก ซึ่งแน่นอนว่า แต่ละคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นก็คือ การซื้อบริการทางเพศ
จากรายงานเผยว่า เมืองพัทยา มีหญิงขายบริการทางเพศมากถึง 27,000 ราย ซึ่งประมาณ 1 ใน 5 ของหญิงเหล่านี้ อาศัยอยู่อย่างถาวรในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้ไม่ต่างอะไรไปจาก นครแฝดโซดอมและกอมเมอร์ราห์ (Sodom and Gommorah) หรือนครแห่งบาป ที่มัวเมาในความบาปและความชั่ว โดยเฉพาะความนิยมเสพกามต่าง ๆ ตามเรื่องราวที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยว่า แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ในเมืองพัทยา ย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดของโลก อันเป็นสถานที่ในฝันของชายขาเที่ยวทั่วโลกนั้น ล้วนเต็มไปคลับบาร์ที่มีขายบริการทางเพศ และอะโกโก้บาร์ ที่มีแสงสีประดับบอกว่าด้านในมีโชว์สยิว โชว์เต้นรูดเสา เครื่องดื่มถูก ๆ และอีกมากมาย โดยที่ด้านหน้าร้านนั้น จะเต็มไปด้วยหญิงไทยนุ่งน้อยหุ่มน้อย หน้าขาวด้วยรองพื้นแน่น ๆ คอยยืนเรียงรายพร้อมยื่นข้อเสนอบริการนวดให้นักท่องเที่ยวชายที่เดินผ่านไป-มา
แน่นอนว่า ธุรกิจเหล่านี้เอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนหลายล้านคนเข้าประเทศและมีเงินสะพัดมากมาย ด้านมิรเรอร์เผยว่า การค้าประเวณี เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กฎหมายกลับเพิกเฉยละเลย ทำให้มีซ่องเปิดบริการดาษดื่นมากมาย โดยเฉพาะแค่ที่พัทยา ก็มีบาร์เปิดให้บริการมากกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ภายในมีห้องบริการนวด รวมไปถึงการขายบริการทางเพศ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเข้าดำเนินตรวจสอบ เฉพาะแค่มีการร้องเรียนเรื่องหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะขายบริการทางเพศ และเรื่องกระบวนการค้ามนุษย์เท่านั้น ไม่ได้จัดการเรื่องการค้าประเวณีแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น